วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เครื่องหมายวรรคตอน

เครื่องหมายวรรคตอน (Punctuation)
การที่ผู้เรียนได้รู้จักเครื่องหมายวรรคตอนต่าง ๆ จะมีประโยชน์ที่ช่วยให้จับเนื้อหาของเรื่องที่
อ่านได้ ช่วยให้ผู้อ่านไม่หลงประเด็น และสามารถอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เครื่องหมาย
วรรคตอนเป็นเครื่องมือที่ช่วยบอกให้ผู้อ่านได้รู้ว่า ข้อความใดเป็นส่วนสำคัญของประโยค และ
ส่วนใดเป็นส่วนขยาย
เครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

1. ชนิดที่อยู่ภายในประโยค เช่น Comma ( , )
Colon ( : )
Semicolon ( ; )
Hyphen ( - )
Dash ( – )
2. ชนิดที่อยู่ภายนอกประโยค เช่น Period ( . )
Question Mark ( ? )
Exclamation Mark ( ! )
Quotation Mark “………..”
Parentheses ( )
ชนิดที่อยู่ภายในประโยค
1. เครื่องหมาย Comma ( , )
เครื่องหมาย Comma เป็นเครื่องหมายที่ใช้มากที่สุด ใช้แบ่งข้อความ หรือ
แยกส่วนของข้อความในประโยค
1.1 ใช้คั่นประโยคที่เชื่อมด้วย and, or, but ในกรณีที่ประโยคเป็น
ประโยคยาว ๆ เช่น
There are many beautiful shops around the hotel, but she has no time to shop anything.
1.2 ใช้คั่นรายการ รายชื่อต่าง ๆ ในประโยค
My mother went to buy many things at the supermarket such as sugar, flour, milk and eggs.
1.3 ใช้คั่นข้อความที่เป็นส่วนขยาย
Sakorn, my student, is going to get married next week.
My dog, sitting in the cage, barks loudly.
1.4 ใช้คั่นข้อความที่แย้งกัน
He has gone to Chieng Rai, not Chieng Mai.
1.5 ใช้คั่น prepositional phrase ที่นำประโยค เพื่อให้ประโยคมีน้ำหนัก
In spite of the heavy rain, they will go out to concert.
1.6 ใช้คั่นคำที่เป็น direct address (กล่าวระบุชื่อ หรือ คำแทนที่บุคคลที่
สอง)
Sir,
2. เครื่องหมาย Colon ( : )
Colon เป็นเครื่องหมายที่มีการใช้เฉพาะทางมากกว่าเครื่องหมายอื่น ๆ คำว่า
Colon มีความหมายว่า “ดังต่อไปนี้” จึงใช้ตามหลังคำว่า “as follows, the following” หรือคำ
อื่น ๆ ที่มีความหมายในลักษณะเดียวกัน
2.1 ใช้ยกตัวอย่าง
There are many favors of ice-cream in this shop: vanilla, chocolate, strawberry and orange.
2.2 ใช้ขยายความเพื่อเติมหรือเน้นข้อความที่อยู่หน้าเครื่องหมาย Colon
The reason why he came here is this: he wanted to borrow your money.
1. เครื่องหมาย Semicolon ( ; )
1.1 ใช้คั่นประโยค 2 ประโยคที่มีใจความและความสำคัญเท่ากัน และ
นำหน้าคำเชื่อมความ
1.2 ใช้เมื่อต้องการแยกแต่ละสิ่งแต่ละอย่างออกจากกัน ในกรณีที่แต่ละสิ่ง
นั้นมี comma อยู่ก่อนแล้ว
It rained hard; therefore, the football match was cancelled.
Our new committee is composed of Suda, President; Vipa, Vice-President; Noi, General Secretary; ……………….
2. เครื่องหมาย Hyphen ( - )
เครื่องหมาย Hyphen ( - ) มีวิธีใช้ คือ
1.1 ใช้เชื่อมคำ 2 คำ ให้เป็นคำเดียวกัน (Compound Word) เช่น
In Thailand, there is year-round sunshine.
1.2 ใช้เชื่อมคำผสมที่เกิดจากการเติม prefix บางตัวเข้าข้างหน้า เช่น
co – operation, ex - president
1.3 ใช้สำหรับจำนวนเศษส่วนที่เป็น modifier
That bottle is one-fourth full.
3. เครื่องหมาย Dash ( – )
Dash เป็นเครื่องหมายที่ขีดยาวกว่า Hyphen มีหลักการใช้ คือ
1.1 ใช้คั่นข้อความที่อธิบายหรือขยายความที่อยู่ข้างหน้า
I have one more thing to tell you – not come to class late.
1.2 ใช้เน้นข้อความที่แทรกเข้ามา
The home-coming party was so boisterous – everybody hugged and screamed – that no one even tried to have a conversation.
ชนิดที่อยู่ภายนอกประโยค
1. เครื่องหมาย Period ( . )
ใช้แสดงการจบประโยค
The differences between American and British English are not as great as some people imagine.
2. เครื่องหมาย Question Mark ( ? )
ใช้ในประโยคคำถาม
What is your favorite documentary ?
3. เครื่องหมาย Exclamation Mark ( ! )
ใช้ในประโยคแสดงความตื่นเต้น ประหลาดใจ แปลกใจ
Look out !
What a beautiful picture !
4. เครื่องหมาย Quotation Marks “…………”
4.1 ใช้แสดงคำหรือวลีที่รู้จักกันดี
Children enjoyed reading “Harry Potter”.
She likes to drink “Oishi Green Tea”
4.2 แสดงคำหรือวลีที่มีความหมายแตกต่างไปจากความเดิมของคำนั้น
The “banquet” turned out to be no more than hot dogs and soft drinks.
5. เครื่องหมาย Parentheses (…….)
ใช้อธิบายคำหรือข้อความที่มาข้างหน้าหรือเป็นการอธิบายเพิ่มเติม ใช้คล้ายกับ
เครื่องหมาย dash ( – ) และเครื่องหมาย comma ( , )
Were you a friend of the deceased (Mr. Robert Johnson) ?
Exercise
Punctuate these sentences with a comma and a semicolon.
1.
The students study mathematics English history and art.
2.
He was born on Wednesday July 22 1979.
3.
My close friends live in L.A. California.
4.
Thomas plays the violin his sister plays the piano.
5.
Her favorite sports are tennis golf and swimming.
6.
Please leave dinner on the table for a little while I’ll eat when I’ve finished my report.
7.
Chiang Rai is my favorite city sometimes I will move to live there for good.
8.
If it rains we have to postpone our meeting.
9.
We have traveled for ten hours consequently we were glad to rest.
10.
Tony is bored with his present job so he’s going back to school next summer.
11.
When the wind began to blow hard we ran for shelter.
12.
I can’t afford a Mercedez Benz therefore I drive a Toyota.
13.
John Smith our gardener was hurt yesterday.
14.
Nancy is rich and beautiful however she is not happy.
15.
Tsunami was devastating the hotels crambled and fell to the ground.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น